Task Schedule (ตั้งเวลารันโปรแกรม)

Windows Task Scheduler เป็นเครื่องมือในระบบปฏิบัติการ Windows ที่ใช้สำหรับการตั้งเวลาทำงานของโปรแกรม สคริปต์ หรือคำสั่งต่างๆ โดยอัตโนมัติ คุณสามารถตั้งค่าให้ Task Scheduler รันงานตามเวลาที่กำหนดไว้หรือตามเงื่อนไขที่เกิดขึ้น เช่น เมื่อเข้าสู่ระบบ, เมื่อเปิดเครื่อง, หรือเมื่อมีเหตุการณ์บางอย่าง

การใช้งาน Windows Task Scheduler

1. เปิดโปรแกรม Task Scheduler

  • กด Windows Key + R เพื่อเปิดหน้าต่าง Run
  • พิมพ์คำว่า taskschd.msc แล้วกด Enter หรือ
  • คลิก Start แล้วค้นหาคำว่า “Task Scheduler” ในช่องค้นหา

2. สร้าง Task ใหม่

  1. ในหน้าต่าง Task Scheduler คลิกขวาที่ Task Scheduler Library ทางซ้ายมือ แล้วเลือก Create Task…
  2. หน้าต่าง Create Task จะปรากฏขึ้น คุณสามารถตั้งค่าได้ดังนี้:

General Tab: ตั้งชื่อและรายละเอียดของ Task

.

  • Name: ตั้งชื่อที่สื่อถึงการทำงานของ Task
  • Description: คำอธิบายเกี่ยวกับ Task นี้ (ไม่จำเป็นต้องใส่)
  • Security options: เลือกว่าจะให้ Task ทำงานในบัญชีผู้ใช้งานปัจจุบันหรือไม่ (Run whether user is logged on or not)

Triggers Tab: ตั้งค่าเงื่อนไขสำหรับการเริ่ม Task

.

  1. คลิกที่ปุ่ม New… เพื่อสร้าง Trigger ใหม่
  2. คุณสามารถเลือกให้ Task เริ่มทำงานได้ตามเงื่อนไขต่างๆ เช่น:
    • ตามเวลา: Daily, Weekly, Monthly
    • เมื่อเปิดเครื่อง: At startup
    • เมื่อเข้าสู่ระบบ: At log on
    • เมื่อเกิดเหตุการณ์ใดๆ: On an event
  3. ตั้งค่าเพิ่มเติมตามความต้องการ เช่น เวลาเริ่มทำงาน, ความถี่ของการทำงาน ฯลฯ

Actions Tab: ตั้งค่ากิจกรรมที่ Task จะทำเมื่อเงื่อนไขเป็นจริง

.

  1. คลิกที่ปุ่ม New… เพื่อสร้าง Action ใหม่
  2. เลือกประเภทของกิจกรรมที่ Task จะทำ เช่น:
    • Start a program: เปิดโปรแกรมหรือรันสคริปต์
    • Send an e-mail: ส่งอีเมล (ในบางรุ่นของ Windows ฟีเจอร์นี้อาจจะถูกลบออก)
    • Display a message: แสดงข้อความ (ฟีเจอร์นี้ถูกลบออกใน Windows รุ่นใหม่ๆ)
  3. สำหรับการรันโปรแกรม ให้ระบุเส้นทางของโปรแกรมที่ต้องการรัน หรือเส้นทางของ Batch File หรือ PowerShell script ที่ต้องการให้รัน
  • Conditions Tab: ตั้งค่าเงื่อนไขเพิ่มเติม
    • คุณสามารถตั้งค่าให้ Task ทำงานเมื่อมีเงื่อนไขอื่นๆ เช่น เมื่อเครื่องถูกต่อกับพลังงานไฟฟ้า หรือเมื่อมีการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต
  • Settings Tab: ตั้งค่าการควบคุม Task
    • คุณสามารถตั้งค่าได้ว่าจะให้ Task รันซ้ำหากล้มเหลว หรือกำหนดเวลาหยุดการทำงานของ Task ได้

3. บันทึกและรัน Task

  • หลังจากตั้งค่าทุกอย่างเสร็จแล้ว ให้คลิก OK เพื่อบันทึก Task
  • หากคุณตั้งค่าให้ Task ทำงานแม้ว่าจะล็อกออฟ ระบบอาจจะขอให้คุณใส่รหัสผ่านของผู้ใช้เพื่อยืนยันสิทธิ์

4. การจัดการ Task

  • ในหน้าหลักของ Task Scheduler คุณจะเห็น Task ที่คุณสร้างไว้ในรายการ Task Scheduler Library
  • คุณสามารถคลิกขวาที่ Task เพื่อ Run, Disable, Delete, หรือ Export Task ได้ตามต้องการ
  • นอกจากนี้คุณยังสามารถดูสถานะของ Task ว่าทำงานเสร็จสิ้นหรือเกิดข้อผิดพลาดได้ใน History Tab ของ Task นั้นๆ

5. ตัวอย่างการตั้งค่า Task เพื่อรัน Batch File

  • ใน Actions Tab เลือก Start a program
  • ในช่อง Program/script ให้เลือกไฟล์ .bat ที่ต้องการจะรัน เช่น C:\scripts\backup.bat
  • คลิก OK เพื่อบันทึก

ข้อดีของการใช้ Task Scheduler

  • ช่วยทำให้การทำงานเป็นระบบอัตโนมัติ เช่น การสำรองข้อมูล การล้างไฟล์ หรือการอัพเดตระบบ
  • ลดความจำเป็นในการทำงานซ้ำๆ โดยมนุษย์
  • สามารถตั้งค่าให้รันโปรแกรมหรือสคริปต์ในช่วงเวลาที่ไม่ได้ใช้งานเครื่อง ลดผลกระทบต่อการทำงาน

Windows Task Scheduler ช่วยให้การจัดการงานที่ต้องทำซ้ำเป็นเรื่องง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

Scroll to Top